เมนูอาหาร100เมนู

สปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ เมนูที่สามารถทานกันได้ทั้งครอบครัว

กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ เช่นเคยวันนี้ทางเราก็มีเมนูอาหารมาแนะนำให้ทุกคนซึ่งเมนูในวันนี้เป็นเมนูที่สามารถทานกันได้ทั้งครอบครัว 

ประโยชน์ของสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ เนื่องจากในวันนี้เราจะมาทำเมนูสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ ฉะนั้นส่วนผสมหลักก็คือเนื้อหมูสับและมะเขือเทศนั้นเอง โดยเรามาดูคุณค่าทางสารอาหารของหมูสับกันก่อนดีกว่า โดยหมูสับมีโปรตีนไม่แพ้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ เลยและโปรตีนในเนื้อหมูจะมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเด็กทั้งทางร่างกายและสติปัญญา นอกจากนี้เนื้อหมูสับยังมีสารอาหารชนิดอื่นๆไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 1 วิตามินเอ ฟอสฟอรัส และไนอาซีน ที่ต่างก็เป็นสารอาหารจำเป็นต่อร่างกายของเราทั้งนั้นเลยค่ะ ต่อมาคือประโยชน์ของมะเขือเทศก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วนหมู่สาวๆจะสามารถช่วยในเรื่องของความสวยความงามด้านของผิวพรรณเราได้ ทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และบำรุงกระดูกให้แข็งแรง

เมนูอาหาร100เมนู

วัตถุดิบในการทำสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ มีดังนี้

  • เส้นสปาเกตตี้
  • หมูสับ
  • แครอท
  • ถั่วลันเตา
  • ข้าวโพด
  • มะเขือเทศ
  • หอมใหญ่
  • น้ำตาล
  • พริกไทยป่น
  • ซอสมะเขือเทศ
  • น้ำมันพืช
  • น้ำเปล่า

วิธีการทำสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ

  1. โดยขั้นตอนแรกให้เราทำการตั้งหม้อใส่น้ำ เมื่อน้ำเดือดให้เราใส่น้ำมันพืชและเกลือลงไป
  2. จากนั้นก็ให้เราใส่เส้นสปาเกตตี้ลงไปต้มจนเส้นสุกซึ่งเวลาในการต้มก็ให้เราดูข้างซองเพราะแต่ละยี่ห้อจะใช้เวลาในการต้มเส้นไม่เหมือนกัน แล้วจึงตักเส้นนำมาคลุกน้ำมันเพื่อไม่ให้เส้นไม่เกาะตัว
  3. หลังจากนั้นก็ให้เรานำผักทั้งหมดที่เราเตรียมไว้มาหั่นเป็นเต๋าเล็กๆ ก่อนจะนำไปต้มให้สุก
  4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเมื่อน้ำมันร้อนก็ให้เราใส่หอมหัวใหญ่สับลงไปผัดด้วยไฟอ่อน
  5. จากนั้นตามด้วยหมูสับ เมื่อผัดจนหมูสุกก็ให้เราทำการปรุงรสด้วยน้ำตาล พริกไทยป่น และมะเขือเทศบด
  6. เมื่อเราปรุงรสซอสเสร็จแล้ว ก็ให้เรานำเส้นสปาเก็ตตี้จัดใส่จานแล้วจึงค่อยราดน้ำซอสลงไป

เมนูสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ ที่เรายกมานำเสนอให้ทุกคนในวันนี้ เป็นเมนูที่อยากจะแนะนำมากๆ สำหรับบ้านไหนที่อยู่กันเป็นครอบครัว เพราะเมนูนี้เป็นเมนูที่สามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ

บทความแนะนำ : หนังปลาทอดกรอบ สูตรไม่ตากแดด กรอบนาน ทำกินทำขายได้

ข่าวอาหาร-การกิน

หนังปลาทอดกรอบ สูตรไม่ตากแดด กรอบนาน ทำกินทำขายได้

หนังปลาทอดกรอบ สูตรง่ายไม่ตากแดด กรอบนานเป็นเดือน กินเปล่า ๆ ก็เพลิน หรือกินเป็นกับแกล้มก็เด็ด ใส่ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ส้มตำ จิ้มกับน้ำพริกก็ยังได้

หนังปลาทอด
ตามกระแสหนังปลาทอดดราม่า ถ้าหากกลัวว่าจะไม่ใช่หนังปลาแท้ ๆ ก็มาทำเองกันโลด วันนี้เราขอแนะนำสูตรหนังปลาทอดกรอบ สูตรนี้ไม่ต้องตากแดด แค่ล้างหนังปลาและปรุงรสให้เรียบร้อย คลุกแป้งทอดกรอบก่อนทอด แค่นี้ก็เรียบร้อย กินเปล่า ๆ หรือกินกับก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ก็ได้เช่นกัน

หนังปลาทอดกรอบ ใช้ปลาอะไร
ปกติจะใช้หนังปลาแซลมอนเนื่องจากมีเกล็ดน้อยและหนังบาง เวลาทอดจะเป็นแผ่นบางกรอบ เคี้ยวเพลิน นอกจากนี้ยังสามารถใช้หนังปลากะพงและหนังปลาเทราต์ที่มีความบาง อร่อยกรอบไม่แพ้หนังปลาแซลมอน ส่วนหนังปลานิลก็สามารถนำมาทอดได้ เอกลักษณ์คือชิ้นหนา เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ

หนังปลาทอดกรอบ ประโยชน์

  • มีโปรตีน ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ
  • มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงระบบประสาท สายตา และสมอง ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • มีวิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
  • มีวิตามินอี ช่วยป้องกันการอุดตันของเม็ดเลือด ป้องกันการอักเสบ และต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • มีไอโอดีน ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคคอพอก

ข่าวอาหาร-โภชนาการ

สูตรหนังปลาทอดกรอบ

ส่วนผสม หนังปลาทอดกรอบ

  • หนังปลาแซลมอน (หรือหนังปลากะพง หนังปลาคอด หนังปลานิล หนังปลาเทราต์) 500 กรัม
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • แป้งทอดกรอบ
  • น้ำมันพืช

วิธีทำหนังปลาทอดกรอบ

  1. ขูดเกล็ดปลาออกให้หมด ล้างหนังปลาให้สะอาดจนน้ำใส ตัดชิ้นตามชอบ บีบน้ำออกจนแห้ง
  2. ปรุงด้วยผงปรุงรส เกลือ และพริกไทย นวดคลุกเคล้าให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน พักไว้ 30 นาที
  3. นำหนังปลามาคลุกแป้งทอดกรอบจนทั่ว
  4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอท่วม รอจนน้ำมันร้อนจัด ใส่หนังปลาลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน โดยวางไว้บนกระดาษซับมันเพื่อลดการอมน้ำมัน

ถ้าต้องการใส่เครื่องปรุงรสให้ใส่ในขั้นตอนนี้เลย อย่าพักไว้จนเย็นเพราะจะทำให้เครื่องปรุงไม่ซึมเข้าเนื้อ จากนั้นพักจนเย็นแล้วเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิดหรือแพ็กใส่ถุงขาย เก็บได้เป็นเดือน

แนะนำข่าวอาหาร อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : มิชลิน ไกด์ ประกาศ 189 ร้านอาหารคว้า “บิบ กูร์มองด์” ปี 2566

อาหาร

มิชลิน ไกด์ ประกาศ 189 ร้านอาหารคว้า “บิบ กูร์มองด์” ปี 2566

มิชลิน ไกด์ ประกาศ 189 ร้านอาหารคว้า “บิบ กูร์มองด์” ปี 2566

อาหาร

มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ประกาศรายชื่อร้านอาหารคว้าสัญลักษณ์ “บิบ กูร์มองด์” ประจำปี 2566  รวมทั้งสิ้น 189 ร้าน มีร้านใหม่ติดอันดับ 53 ร้าน  มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย เผยรายชื่อร้านอาหารและสตรีตฟู้ดคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ “บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) ประจำปี 2566 รวมทั้งสิ้น 189 ร้าน แทงมวยพักยก โดยในจำนวนนี้ 53 ร้านได้รับการจัดอันดับครั้งแรก และ 6 ร้านได้รับการเลื่อนระดับจากปีก่อน นายเกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ทั่วโลก กล่าวว่า ร้านอาหารสตรีตฟู้ดที่ได้รับสัญลักษณ์ “บิบ กูร์มองด์” สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของไทยที่ได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนสวรรค์ด้านสตรีตฟู้ด” สำหรับนักชิมที่ใส่ใจในราคา เรียกได้ว่าในไทยนั้นสตรีตฟู้ดเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต สามารถพบเห็นร้านอาหารแบบนี้ได้ทุกที่ทั่วประเทศ

ทั้งยังนำเสนออาหารที่อร่อยและหลากหลายอย่างเหลือเชื่อ ดังนั้น สตรีตฟู้ดไม่เพียงมอบประสบการณ์การการรับประทานอาหารแบบไทยขนานแท้ แต่ยังเป็นช่องทางให้สัมผัสความสนุกตื่นเต้นไปกับวัฒนธรรมด้านอาหารของไทยอีกด้วย ในช่วงเวลานี้ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มลดลง เราหวังว่าการประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ บิบ กูร์มองด์ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน ซึ่ง มิชลิน ไกด์ ได้ทำการจัดอันดับเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยมุ่งสร้างความคึกคักทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่นและประเทศไทยโดยรวม ตลอดจนจุดประกายให้นักท่องเที่ยวและนักชิมได้ออกเดินทางไปพบกับอาหารคุณภาพดีในราคาที่เป็นมิตรตามเมืองใหญ่ของไทย  นายปูลเล็นเนค กล่าว